เคล็ดลับในการเลือกสไตล์ของชุดเจ้าสาว

ชุดเจ้าสาวเกาะอกแบบตรง (Strapless Neckline)

     หนึ่งในชุดเจ้าสาวที่คลาสสิคที่สุดก็คือ “แบบเกาะอกตรง” นี่แหละ ซึ่งจะทำให้ลำคอดูยาวระหงขึ้น เหมาะสำหรับสาวๆ ที่ชอบความสง่างามและเรียบหรู

ชุดเจ้าสาวเกาะอกรูปหัวใจ (Sweetheart Neckline)

     ชุดเจ้าสาวเกาะอกแบบหัวใจนั้น จะดูน่ารักและเป็นสาวหวานสุดโรแมนติคมากกว่าเกาะอกแบบตรง นอกจากนี้เส้นโค้งของตัวเกาะอกยังช่วยทำให้สาวๆ ที่มีใบหน้ารูปเหลี่ยมดูนุ่มนวลขึ้นได้

ชุดเจ้าสาวสไตล์คล้องคอ (Halter Neckline)

     ชุดเจ้าสาวแบบคล้องคอนั้น ดูสวย โฉบเฉี่ยว และเป็นเอกลักษณ์ ทั้งยังให้ความรู้สึกเหมือนในเทพนิยายกรีกอีกด้วย

ชุดเจ้าสาวกระโปรงทรง A (A-Line)

     ชุดเจ้าสาวทรง A มีลักษณะสมชื่อ คือ “คล้ายกับรูปตัว A” ตัวกระโปรงบานเล็กน้อย ไม่มีจีบรอบเอว ส่วนคอเสื้อด้านบนก็มีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเกาอก คล้องคอ สายเดี่ยว หรือ คอวี เป็นต้น ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความชอบของว่าที่เจ้าสาวๆ แต่ละคน

     ชุดเจ้าสาวทรง A นี้ เหมาะกับเจ้าสาวทุกรูปร่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าสาวที่ค่อนข้างตัวเล็ก ไม่สูงมากนัก เพราะดีไซน์ที่คลาสิค ทำให้ใส่แล้วดูสง่างามยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยอำพรางจุดด้อยที่เจ้าสาวอยากปกปิดได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น ต้นขา สะโพก หรือรอบเอว

ชุดเจ้าสาวทรงบอลกาวน์ (Ball Gown)

     ชุดเจ้าสาวแบบบอลกาวน์ น่าจะเป็นชุดที่เราเคยเห็นกันบ่อยที่สุด ลักษณะจะเป็นกระโปรงบาน มีสุ่มด้านใน เหมือนกับเจ้าหญิงในเทพนิยาย มีการเข้ารูปตรงเอว หรือสะโพก ทำให้เหมาะกับสาวๆ ที่ไม่มีเอว เพราะเมื่อใส่แล้วจะดูมีสัดส่วนขึ้นมาทันที และยังช่วยพรางขนาดสะโพกและรอบเอวอีกด้วย

     อย่างไรก็ตาม ชุดแนวบอลกราวน์นั้น ไม่ค่อยเหมาะกับสาวตัวเล็ก หรือคนที่ไม่สูงนัก เพราะด้วยกระโปรงพองๆ จะยิ่งทำให้ดูตัวเล็กเข้าไปใหญ่ นอกจากว่าจะสวมรองเท้าส้นสูงไว้ด้านใน

ชุดเจ้าสาวทรงปริ๊นเซสหรือเจ้าหญิง (Princess)

     ชุดเจ้าสาวแบบปริ๊นเซสนั้น พัฒนามาจากแบบทรง A คือ จะเข้ารูปที่ช่วงบน แล้วค่อยๆ บานออกตรงช่วงกระโปรง แต่ต่างกันตรงที่ ชุดเจ้าสาวทรงปริ๊นเซสจะมีหางกระโปรงที่ลากยาว และตัวกระโปรงอาจจะพองมากกว่า แต่ก็ไม่เท่าชุดแบบบอลกาวน์

     อย่างไรก็ตาม ชุดทรงนี้ก็ไม่เหมาะกับสาวตัวเล็ก เพราะหางกระโปรงที่ลากยาวจะยิ่งทำให้ดูเตี้ยลงนั่นเอง

ชุดเจ้าสาวทรงเมอร์เมดหรือทรงหางปลา (Mermaid)

     ชุดเจ้าสาวทรงเมอร์เมดเป็นการเรียกตามลักษณะของชายกระโปรงที่บานออกเหมือนหางของนางเงือก และเป็นชุดแต่งงานที่กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบัน

     ชุดเจ้าสาวแบบเมอร์เมดนั้น เหมาะกับสาวๆ รูปร่างสูงโปร่งและหุ่นดี เพราะตัวชุดค่อนข้างเข้ารูป โชว์สัดส่วน ทั้งหน้าอก เอว และสะโพก ดังนั้น สาวๆ คนไหนที่อยากพรางหุ่น ชุดเจ้าสาวทรงเมอร์เมดก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีเลย

ชุดเจ้าสาวทรงเชท (Sheath)

     ชุดเจ้าสาวทรงเชท เป็นชุดที่มีลักษณะตรงและไม่เข้ารูป และทิ้งตัวลงมาอย่างหลวมๆ ดังนั้น จึงสามารถปกปิดรูปร่างได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ ยังเหมาะกับทั้งเจ้าสาวตัวสูงและตัวเล็ก เพราะชุดที่ทิ้งตัวลงมาจะทำให้รูปร่างดูสูงเพรียวยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม สำหรับสาวๆ ที่สะโพกใหญ่ก็ไม่ควรเลือกชุดเจ้าสาวทรงเชท เพราะอาจทำให้ดูมีหน้าท้องได้

ชุดเจ้าสาวทรงเอ็มไพร์ (Empire)

     ชุดเจ้าสาวทรงเอ็มไพร์ เป็นชุดที่มีขอบเอวสูง รัดใต้อก และกระโปรงบานเล็กน้อย หรือจะเป็นแบบทรง A ก็ได้ ซึ่งชุดลักษณะนี้เหมาะกับสาวที่ไม่ค่อยมีหน้าอก เพราะลักษณะของชุดที่มีการรัดใต้อกจะช่วยพรางตาได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ การที่เป็นชุดเอวสูง ยังช่วยทำให้สาวๆ ดูสูงเพรียวมากขึ้นอีกด้วย

 

     หากว่าที่เจ้าสาวยังคงสับสนและวุ่นวายใจอยู่ว่า “ชุดไหน? สไตล์ไหน? จะเข้ากับเราที่สุดนะ” At Love Marry จะทำให้คุณไม่ต้องสับสนและวุ่นวายใจอีกต่อไป เพียงแค่เข้ามาที่ร้านของเราในซอยลาดปลาเค้า 50 หรือสามารถติดต่อสอบถามเส้นทางก่อนมาได้ที่ Line ID : @atlovemarry หรือโทร 080-030- 8899, 084-422-1455

     ปัจจุบัน At Love Marry มีชุดเจ้าบ่าวและเจ้าสาวมากกว่าพันชุดให้เลือก และสามารถรองรับเจ้าบ่าวและเจ้าสาวที่หมุนเวียนเข้ามาร้านเราในทุกๆ วัน เรามีห้องชุดสำหรับชุดแต่งงานราตรีวันงาน ห้องชุดไทยเจ้าสาว ห้องชุดพรีเวดดิ้ง รวมไปถึงห้องชุดราตรีสำหรับใช้ถ่ายพรีเวดดิ้ง และที่สำคัญเรามีทีมช่างตัดเย็บชุดเจ้าสาวที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี ไว้คอยบริการคุณ ดังนั้น คุณสามารถมั่นใจได้ว่า “ในวันสำคัญอันแสนพิเศษ คุณทั้งคู่จะโดดเด่นที่สุดในวันนั้นอย่างแน่นอน” สามารถเข้ามาดูผลงานของเราได้ที่ www.atlovemarry.com